การถวายเทียนพรรษา จัดเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนทำในวันเข้าพรรษา ซึ่งวันเข้าพรรษา นับเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของไทย ซึ่งต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา โดยเป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ วัดใดวัดหนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนโดยกำหนดระยะเวลา 3 เดือนตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ และไม่ไปค้างแรมที่อื่น ซึ่งวันเข้าพรรษาก็จะเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี โดยพุทธศาสนิกชนมีการถวายผ้าอาบน้ำฝน และการถวายเทียนพรรษา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้ประโยชน์ ดังนั้น วันนี้เราเลยอยากส่งต่อบุญด้วยการแนะนำ วิธีถวายเทียนพรรษา คําถวายเทียนพรรษา และอานิสงส์ที่จะได้รับจากการถวายเทียนพรรษา มาดูกัน
ความสำคัญการถวายเทียนพรรษา
ย้อนกลับไปสมัยก่อนตอนพระภิกษุสงฆ์ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านจึงหล่อเทียนต้นใหญ่ขึ้น เพื่อถวายให้แก่พระภิกษุสงฆ์ ใช้จุดเพื่อส่องแสงสว่างสำหรับการปฏิบัติกิจวัตรต่าง ๆ เป็นพุทธบูชาตลอดเวลาระยะ 3 เดือนที่จำพรรษา
โดยประเพณีการถวายเทียนพรรษาในประเทศไทยจะจัดขึ้นก่อนวันพรรษา ทั้งนี้ปัจจุบันการถวายเทียนพรรษาอาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยม หรือมีความสำคัญลดลง เนื่องจากเป็นยุคสมัยที่มีไฟฟ้าใช้แล้วจึงเปลี่ยนจากการถวายเทียนมาเป็นหลอดไฟฟ้า ไฟฉาย และถ่านไฟฉายแทน แต่ถึงอย่างไรประเพณีการถวายเทียนพรรษายังคงเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง
วิธีการถวายเทียนพรรษา
เมื่อเข้าใจความสำคัญของการถวายเทียนพรรษาแล้ว คราวนี้มาดูขั้นตอนวิธีการถวายเทียนพรรษาอย่างถูกต้อง โดยประเพณีการถวายเทียนพรรษามีมาแต่สมัยโบราณ ซึ่งพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำการหล่อเทียนพรรษา เมื่อหล่อเทียนพรรษาเสร็จแล้ว พุทธศาสนิกชนนำเทียนเดินแห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ ก่อนถวายพระสงฆ์ ซึ่งการถวายเทียนพรรษาจะถวายก่อนถึงวันพรรษา สามารถแบ่งประเพณีการถวายเทียนพรรษาออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. การถวายเทียนพรรษาตามประเพณีหลวง
ประเพณีหลวง หรือการพระราชกุศลหล่อเทียนพรรษา คือ พระมหากษัตริย์ทรงหล่อเทียนพรรษาด้วยพระองค์เอง จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินทรงจุดบูชาพระรัตนตรัย เฉพาะพระอารามหลวงที่สำคัญ หรือโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์
2. การถวายเทียนพรรษาตามประเพณีราษฎร
ประเพณีราษฎร หรือเทียนจำนำพรรษา หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า “เทียนพรรษา” คือ ประชาชนหรือพุทธศาสนิกชนเป็นผู้หล่อเทียนพรรษา โดยจะมีเทียนด้วยกัน 2 ประเภท คือ เทียนพรรษาแบบที่สามารถจุดไฟได้ และเทียนพรรษาแบบที่ไม่สามารถจุดไฟได้ ซึ่งเทียนพรรษาที่ไม่จุดไฟได้นั้น ทำขึ้นมาเพื่อการประกวด หรือถวายเป็นพุทธบูชาเท่านั้น
คำกล่าวการถวายเทียนพรรษา
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)
ยัคเฆ ภันเต, สังโฆ ปะฏิชานาตุ, มะยัง ภันเต, เอตัง ปะทีปะยุคัง, สะปะริวารัง, เตมาสัง, พุทธัสสะ ปูชะนัตถายะ, อิมัสสะหมิง อะโปสะถาคาเร, นิยยาเทมะ, สาธุ โน ภันเต, อะยัง เตมาสัง, พุทธัสสะ, ปูชะนัตถายะ, ปะทีปะยุคัสสะ, ทานัสสะ, อานิสังโส, อัมหากัญเจวะ, มาตาปิตุอาทีนัญจะ, ปิยะชะนานัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์โปรดรับทราบ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอมอบถวายเทียนพรรษาคู่นี้ พร้อมกับของบริวาร ไว้ ณ อุโบสถนี้ เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดพรรษาแด่พระสงฆ์ ขออานิสงส์แห่งการถวายคู่เทียนพรรษา ขอพระสงฆ์จงรับ ซึ่งเทียนประจำพรรษาเล่มนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย และแก่ปิยชนทั้งหลายอันมี มารดา บิดา ญาติสายโลหิต มิตรสหายทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย กับเทพเจ้าทั้งหลายทั้งปวงด้วย ตลอดกาลนานเทอญ
อานิสงส์ที่ได้รับจากการถวายเทียนพรรษา
- ย่อมเจริญไปด้วยเพื่อสนิทมิตรสหายและบริวารที่ดี
- ได้เป็นที่รักของเพื่อนมนุษย์และเหล่าเทวดาทั้งหลาย
- เมื่อสิ้นลมหายใจจากโลกนี้ไปแล้วย่อมไปสู่สุคติและสวรรค์
- เมื่อสิ้นลมหายใจจากโลกนี้ไปแล้วย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
- ทำให้เกิดปัญญา ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ซึ่งเปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งเทียน
- ช่วยให้ชีวิตสว่างไสวรุ่งเรือง ผู้ถวายเทียนพรรษาย่อมเจริญด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ
- ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีปัญหาร้ายกลับกลายเป็นดี หรือผ่อนหนักให้เบา
- หากได้สั่งสมบารมีมากพอ ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือ ปัญญารู้แจ้งเข้าสู่นิพพานได้
ดังนั้นการศึกษาขั้นตอนวิธีถวายเทียนพรรษาจึงมีความสำคัญสำหรับชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง ถ้าชอบบทความที่มีสาระและได้ความรู้แบบนี้ ก็อย่าลืมแชร์ให้ญาติพี่น้องที่เรารัก เพื่อให้เป็นการศึกษาสำหรับชาวพุทธกันต่อไป และสุดท้ายนี้หากใครมีเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องสั่งพวงหรีด ก็สามารถสั่งได้ที่ร้านศาลาหรีดของเรา ยินดีให้บริการจากใจ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล